Skip to content
065-429-6465, 084-342-3999

จำหน่ายและบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ร้อยเอ็ด นอกสถานที่ 24 ชั่วโมง

 
มิตรภาพแบตเตอรี่ร้อยเอ็ด
มิตรภาพแบตเตอรี่ร้อยเอ็ด
จำหน่ายและบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่นอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
  • หน้าหลัก
  • รู้จักเรา
  • ผลิตภัณฑ์
    • GS BATTERY
    • FB BATTERY
    • 3K BATTERY
    • YUASA
    • BOLIDEN
    • BOSCH
    • PANASONIC
    • PUMA
  • เลือกแบตรถยนต์
  • พื้นที่ให้บริการ
  • แบตมือสอง
  • สาระน่ารู้
  • ติดต่อเรา
  • หน้าหลัก
  • รู้จักเรา
  • ผลิตภัณฑ์
    • GS BATTERY
    • FB BATTERY
    • 3K BATTERY
    • YUASA
    • BOLIDEN
    • BOSCH
    • PANASONIC
    • PUMA
  • เลือกแบตรถยนต์
  • พื้นที่ให้บริการ
  • แบตมือสอง
  • สาระน่ารู้
  • ติดต่อเรา

แบตเตอรี่แห้ง-น้ำต่างกันอย่างไร

แบตเตอรี่น้ำ เป็นแบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำกลั่น และต้องดูแลเป็นประจำ จะต่างจากแบตเตอรี่แห้งอย่างมาก เพราะจะต้องมีการตรวจเช็คทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อให้แบตเตอรี่น้ำนั้นอยู่ในสภาพพร้อมใช้ตลอดเวลา แบตเตอรี่ประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่มีเวลาดูแลรถยนต์ ดูแลแบตเตอรี่ได้ ข้อดีของแบตเตอรี่น้ำ คือราคาถูก ทนทานต่อการประจุไฟเกินและคายประจุ มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน แต่ข้อเสียก็คือ หากมีการเคลื่อนย้ายแบตจะต้องระวังการรั่วหกของสารละลาย และที่สำคัญคือต้องดูแล คอยเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอ ห้ามขาดโดยเด็ดขาด

แบตเตอรี่แห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากแบตเตอรี่แห้งนั้นไม่จำเป็นต้องดูแลเลย ไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น ซึ่งจะต่างจากแบตน้ำมาก เพราะด้วยความที่แบตเตอรี่แห้งนั้นไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ไม่ต้องดูแล ทำให้ สะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมทั้งไม่ต้องเสียเวลาดูแลแบตตลอดอายุการใช้งาน และแบตเตอรี่แห้งนั้นยังสามารถปล่อยทิ้งไว้ในสภาพไม่มีไฟประจุได้ในระยะเวลานานกว่าแบตธรรมดาอีก เพราะฉะนั้น แบตเตอรี่แห้งจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถยนต์สักเท่าไร ไม่ค่อยมีเวลาตรวจสอบรถยนต์ แต่ข้อเสียของ แบตเตอรี่แห้งก็คือ ราคาที่จะแพงกว่าแบตเตอรี่ธรรมดาพอสมควร หรือหากแบตเตอรี่แห้งเกิดการอุดตันทางรูหายใจซึ่งเป็นระบบทางเดินทางเดียว ก็จะเกิดปัญหาแรงดันภายในซึ่งเกิดปัญหาดังกล่าวได้ง่าย

แบตเตอรี่กึ่งแห้ง เป็นแบตเตอรี่คล้าย ๆ แบตเตอรี่แห้งซึ่งจะต่างกันตรงที่แบตเตอรี่แห้งนั้นจะไม่มีรูเติมน้ำกลั่นเลย แต่แบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นยังมีรูเติมอยู่ แบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นยังต้องการการดูแลอยู่แต่จะมีระยะเวลาการดูแลน้อยกว่าแบตเตอรี่น้ำ ซึ่งแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นจะอยู่ที่1-2ครั้งต่อปีเท่านั้น ซึ่งข้อดีก็คือ ราคาจะถูกกว่าแบตเตอรี่แห้ง และแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยเท่าแบตเตอรี่น้ำ แต่ก็ยังต้องเติมกลั่นอยู่ดีซึ่งจะต่างกับแบตเตอรี่แห้ง และยังมีความทนทานสูง เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล ส่วนข้อเสีย แม้จะได้ชื่อว่าเป็นแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้น แต่ก็ยังไม่ใช่แบตเตอรี่แห้ง จึงยังต้องการการดูแลอยู่บ้าง ห้ามละเลยเด็ดขาด

สรุปแล้วแบตเตอรี่แต่ละประเภทต่างก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้งานแต่ละท่าน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่น้ำ,แบตเตอรี่แห้ง,แบตเตอรี่กึ่งแห้ง ก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตและให้สอดคล้องกับตัวรถคู่ใจของเราด้วยนะครับ

 

ที่มา 3kbattery.co.th

Related Posts

ขับกระบะแต่อยากติดเครื่องเสียง ใช้แบตแบบไหนครับ
กรกฎาคม 12, 2018
วิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์
กรกฎาคม 12, 2018
ข้อควรคิด ก่อนซื้อแบตเตอรี่
กรกฎาคม 12, 2018
รู้ไหม แบตเตอรี่แบบใด เหมาะกับรถคุณ
กรกฎาคม 12, 2018
5 วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ให้ยาวนาน
กรกฎาคม 12, 2018
เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์
กรกฎาคม 12, 2018
สาระน่ารู้อื่นๆ
  • ขับกระบะแต่อยากติดเครื่องเสียง ใช้แบตแบบไหนครับ
    กรกฎาคม 12, 2018
  • วิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์
    กรกฎาคม 12, 2018
  • ข้อควรคิด ก่อนซื้อแบตเตอรี่
    กรกฎาคม 12, 2018
  • แบตเตอรี่แห้ง-น้ำต่างกันอย่างไร
    กรกฎาคม 12, 2018
  • รู้ไหม แบตเตอรี่แบบใด เหมาะกับรถคุณ
    กรกฎาคม 12, 2018
  • 5 วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ให้ยาวนาน
    กรกฎาคม 12, 2018
คลังเก็บ
  • กรกฎาคม 2018
  • มิถุนายน 2018
หมวดหมู่
  • สาระน่ารู้
Meta
  • เข้าสู่ระบบ
  • Entries RSS
  • RSS ของความคิดเห็น
  • WordPress.org
© 2019 มิตรภาพแบตเตอรี่ร้อยเอ็ด. จำหน่ายและบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ร้อยเอ็ด นอกสถานที่ 24 ชั่วโมง